วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

ROAMING Laos Trip (Vientiane-Luang prabang 9-01-58)

ROAMMING

 Laos Trip Vientiane-Luang prabang 9-01-58

  • งานเดินก็มา
     น้ำอุ่นกับเช้าอากาศเย็นเป็นโอกาสดีที่เหมาะกับการปั่นจักรยานเที่ยวรอบเมืองลาวอย่างนครหลวงเวียงจันทน์แห่งนี้ (ວຽງຈັນ ดินแดนลาวตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส เวียงจันทน์ถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางการบริหารการปกครองของลาวในอาณัติของฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2442 ต่อมาเมื่อประเทศลาวประกาศเอกราชจากฝรั่งเศส ก็ได้กำหนดให้กรุงเวียงจันทน์เป็นเมืองหลวงของลาวสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้)เราสามคนก้าวออกจากที่พัก หลังจากทำธุระส่วนตัวกันเสร็จหมด ทุกคนต่างเก็บของใส่กระเป๋าแล้วนำมาวางรอไว้ที่ล๊อบบี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางต่อในคืนนี้ 

เราสามคนได้ซื้อตั๋วเดินทางระหว่าง เวียงจันทร์-หลวงพระบาง ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจาก ที่พักของเรา ในราคา 180,000 กีบ หรือประมาณ 735 บาทไทย เราสามคน ได้ออกตามหาร้านเช่าจักรยานหลังจากที่เดินออกมาจากที่พัก แล้วเราก็เจอ หนึ่งร้านพวกเราตีราคากันไม่น่าเกินคันละ50บาท ผมเป็นคนเข้าไปถามราคา ปรากฎว่าราคาต้องเป็นที่น่าตกใจ..
"200 บาทค่ะ" คำตอบจากหญิงสาวเจ้าของร้าน
หลังจากที่กลับมาปรึกษากันหน้าร้าน เราตัดสินใจว่า จะเดินหาร้านจักรยานไปเรื่อยๆ แล้วกัน แล้วระหว่างทางถ้าเรา เจอร้านขายซิมมือถือเราก็จะหาซื้อซิมอินเตอร์เน็ตกัน 
ระหว่างที่หาร้านจักรยานและร้านขายซิมเน็ตนั้นเราก็ได้แวะหามื้อเช้ากินกันและได้ไปเจอร้านนึง อยู่ระแวกกับโรงเรียนแห่งหนึ่งแถวๆประตูชัย และสิ่งที่น่าลองของที่นั้นคือ แซนวิช(เป็นขนมปังแท่งผ่าตรงกลางสอดใส้ต่างๆ หมูหยอง ไข่ หอม มายองเนส บราๆ) และ น้ำ โอวัลตินเย็น อีกถุงนึง สรุป โอวัลตินเย็นแพงกว่า แซนวิช อีกครับ ราคา งง มาก 
หลังจากนั้นก็เดินกันต่อ...จนถึง ประตูไซ ((Patuxay) หรือประตูชัย ลาว สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของปวงชนลาว พ้นจากการเป็นเมืองขึ้น โดยเลียนแบบ ประตูชัย ปารีส แต่ใช้ศิลปะลาว)


หลังจาก ที่ โพสท่าถ่ายรูปคู่ๆคี่ๆกับประตูชัยแล้วเราก็ตัดสินใจจ่ายเงินค่าเข้าไปชมในประตูชัยในราคาคนละ 3,000 กีบ หรือ คนละ 13 บาทไทย
ในระหว่างทางเดินขึ้นประตูชัยนั้นทุกๆชั้นจะมีร้านค้าขายของที่ระลึกเกี่ยวกับประตูชัยนับสิบๆร้านเลย ทีเดียว เราขึ้นกันไปจนสุด ชมวิว รอบเมืองจากใจกลางเมืองหลวง สวยเลยทีเดียวครับ
หลังจากนั้น เราเดินกันต่อ....เดินกันต่อ...เดิน.. .กัน .. .ต่อ.. .หรอ!! ไหนว่าจะเช่าจักรยานไง!!
เราเดินกันจนลืมว่าต้องหาร้านเช่าจักรยาน เราเดินกันมาร่วม เกือบ5กิโลน่าจะได้ แล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ เดินมันเลยแล้วกัน พวกเราตัดสินใจเดินยาวกันต่อจนถึง พระธาตุหลวง( พระธาตุ (สถูป) ขนาดใหญ่สีทองอร่าม บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นเครื่องหมายในดวงตราสำคัญของประเทศ) สีเหลืองสวยงาม มีพื้นที่กว้างมาก ภายในพื้นที่ประกอบไปด้วยหลายวัดและรูปปั้นต่างๆ การจะเข้าไปชมในส่วนของ พระธาตุหลวงนั้นต้องเสียค่าเข้าคนละ 5,000 กีบ หรือ ราวๆ คนละ 20 บาท


พระธาตุหลวงมองมุมไหน ก็สวยเหมือนกันทุกทิศ ไม่น่าเชื่อ ว่าจะสร้าง มานานมาก ตามตำนานดังกล่าวระบุศักราชการสร้างว่าอยู่ในช่วง พ.ศ. 238 สุดยอดไปเลย...
เราเดินทาง(ด้วยเท้า)ออกจาก พระธาตุหลวงเดินกลับมาทางเดิม ตัดสินใจจะกลับที่พัก ผ่านประตูชัยอีกครั้ง...... .. ..
"เฮ้ย เฮ้ย !! จะไปไหน รถตู้ มั้ย???" เสียงเดิมๆที่คุ้นเคย ตะโกนมาจาก ข้างหน้าเรา เป็นลุงรถตู้คนเดิมที่เราเจอเมื่อวานที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว นี่ไม่รู้เพราะอะไรต้องมาเจออีก แต่สุดท้าย ก็ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินผ่านมา ทิ้งไว้แต่เสียงที่ค่อยๆหายไปในกลีบเมฆ
"ตี๊นน ปี๊นน" เสียงแตร ดังขึ้น ในขณะที่เรากำลังจะข้ามถนน บอกตามตรงเลยครับ ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย เรายัง งง กับการมองซ้ายมองขวาในการข้ามถนน เพราะ สปป.ลาวนั้นใช้ถนนตรงข้ามเลนรถกับประเทศไทยทำให้สับสนมากในการข้ามถนนแต่ละทีต้องคิดก่อนว่ารถจะมาทางไหน 
เดินสุ่มทางไปเรื่อยๆเผลอไปเจออีกแลนด์มาร์คของที่นี่ครับใจกลางเมืองเช่นกันนั้นคือ ทาดดำ(ตั้งอยู่บริเวณ วงเวียนใจกลางเมือง เดิมทีพระธาตุหุ้มด้วยทอง แต่ถูกลอกออกในสมัยสงครามที่สยามเข้ายึดเมืองเวียงจันทร์ จึงเรียกกันว่า ธาตุดำ)
และก็เดินต่อ...
ก่อนจะถึงที่พักเราแวะชิมกาแฟจากร้าน Comma เป็นร้านที่ไม่เด่นไม่ดังอะไรแต่ได้ความเป็นส่วนตัวสุดๆ
เพราะลูกค้าที่ไม่มาก เพราะเป็นร้านขนาดเล็ก ทำให้ ร้านนี้น่าสนใจสำหรับพวกเรา พอแต่ละคนหย่อนตูดลงเก้าอี้สั่งกาแฟกันเสร็จ เล่นWIFI กันเต็มที่ เราสามคนได้ ลองใช้ กล้อง GoPro ที่ได้มาจากพี่ของมอส แต่ สวรรค์ชั่งเป็นใจ เราไม่มี password ในการ ลิ้งเข้ามือถือสุดท้ายก็ยอมแพ้เก็บลงในกระเป๋าเช่นเดิม
เราเดินทางกลับมาถึงที่พัก....
"ซิม ละ ?" เอาแล้วไงครับ ลืม ซิมอีกจนได้ เวลารถ ก็ อีกแค่ไม่ถึงชั่วโมง แต่เราสามคนก็ตัดสินใจ วิ่งตามหาร้านซิม หาไปเรื่อยๆ ห่างไกลที่พักเรื่อยๆ พระอาทิตย์ ก็ตกดิน จนมาเจอร้านหนึ่งกำลังจะปิด เราต่อรองกันอยู่นานครับกว่าจะได้ซิมมาเพราะราคากับแพคเกจ ของที่ลาวแตกต่างจากไทยพอสมควร
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาวิ่งกลับที่พัก เพราะอีกไม่ถึง 10 นาที รถจะมารับแล้ว....(โชคดีที่ยังทันครับ)
พอมีรถมารับเราจากที่พักไปส่งเราต่อที่ขนส่งสายเหนือนครเวียงจันทร์ เราก็ นั่ง รถ จนกว่าจะถึงเวลารถออก 20:00 น
รถนอนของที่นี่มีแต่ชาวต่างชาติเกือบทั้งคันคุยกันทีเหมือนรู้จักกันหมดเอาละไงครับโรคกลัวฝรั่งกำเริบแล้ว และจะขึ้นรถทุกคนต้องถอดรองเท้าครับ ทางพนักงานจะแจกถุงให้เราเก็บรองเท้า และขึ้นเรียงนั่งกันตามที่นั่งของใครของมันตามเลขบัตรมีอยู่สามแถวครับ บน ล่าง ทั้งคันมีอยู่ประมาณ สามสิบกว่าที่นั่ง...แต่ ที่นั่งของผมกับโจดันมีผู้หญิงชาวต่างชาติมานั่งเรียบร้อยแล้ว ทำไงดีละทีนี้ เราเลยให้พนักงานไปบอกพี่เค้าให้หน่อยว่านั่งที่ผิด พี่แก ทำหน้า งง จนเราเหลือบไปเห็นที่นั่งท้ายรถ ซึ่งเป็นเตียงนอน สาม เตียงติดกันเลย เราเลยบอกพนักงานว่า ขอไปนอนตรงนั้น ได้มั้ย พนักงานบอกว่า ได้ โอเคเลยทีนี้ ได้นอนติดกันเลย สบายละ... 
"ปั้ง ปั้ง .. .ปั้ง" เสียงประตูห้องน้ำฟาดกับที่กั้นตกของผมทั้งคืน ตลอดจนถึง หลวงพระบาง เลยครับ .

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น